เดินหน้าเสนอประเด็นปฏิรูปสื่อต่อ สปช.ขอแก้กฎหมายต่อ สนช.ผลักดันโครงการ
ห้างสรรพสินค้าทางอากาศ จัดสิทธิพิเศษให้ผู้ประกอบการ สัมมนาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
ได้ธุรกิจสื่อบนสื่อธุรกิจและลุ้นของรางวัลมากมาย
จากการเปิดของนายฉัตรชัย ผิวนิล กรรมการเลขาธิการสภาเครือข่ายสื่อภาคประชาชน
แห่งชาติ (สค.สช.) ถึงโครงการจัดสัมมนาสัญจร 10 ครั้งทั่วประเทศไทย ว่าเป็นโครงการที่
จัดขึ้นโดย สค.สช. ร่วมกับ 25 สมาคมสื่อภาคประชาชนทั่วทุกภูมิภาคโดยมีองค์กรภาคธุรกิจ
หลายแห่งเข้าร่วมสนับสนุน งบประมาณในการดำเนินงาน โดยมีกำหนดการและสถานที่
ดังต่อไปนี้
ทุกแห่งเวลา 09.00-15.00 น. และหากใครไปถึงก่อน 09.00 น.จะได้รับคูปอง
ชิงโชค ลุ้นรางวัลคือ มิกซ์ -ไมโครโฟน DJ –นาฬิกามหามงคล และอื่น ๆ อีกมากมาย
นายฉัตรชัยกล่าวสรุป
ทางด้านนายกนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์ นายกสภาเครือข่ายสื่อภาคประชาชน
แห่งชาติกล่าวว่าการประชุมสัญจรครั้งนี้ถือเป็นครั้งสำคัญที่จะสร้างประวัติศาสตร์
ร่วมกันของผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนทุกแห่ง เพราะเป็นการ
ผสมผสานกิจกรรมที่ลงตัวที่สุด ทั้งนี้จากการที่ตนได้ทำงานด้านสื่อนี้มาหลายปี
จนมาจัดตั้งเป็นสภาฯ นี้ เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าปัญหาของกลุ่มสื่อวิทยุ
กระจายเสียงภาคประชาชนนั้น ยังขาดความเข้าใจในการที่มีส่วนร่วมกับ
ภาครัฐ ขาดพลังในการขับเคลื่อนองค์กรวิชาชีพของตนเอง ขาดการสนับสนุน
อย่างพอเพียง จึงไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่อยากจะทำ เมื่อตนอาสาเข้ามา
แล้วก็ลองทำตามแนวทางที่น่าจะเป็นไปได้คือการผสมผสานความลงตัวใน
หลาย ๆ ด้านเช่น ด้านกฎหมาย ด้านการมีส่วนร่วมกับภาครัฐ กับ กสทช.ที่
เป็นองค์จัดสรรและตรวจสอบ รวมถึงด้านธุรกิจ ซึ่งก็สามารถดำเนินได้ต่อเนื่อง
มาถึง 3 ปี โดยไม่มีการเรียกเก็บเงินจากสมาชิกเลยแม้แต่บาทเดียว
นายกนกศักดิ์กล่าวต่อไปว่าเมื่อกฎหมายแบ่งกลุ่มวิทยุให้มี 3 กลุ่ม และกลุ่ม
ที่มีจำนวนมากที่สุดคือกลุ่มวิทยุบริการทางธุรกิจ จึงต้องใช้กลุ่มใหญ่กลุ่มนี้ดำเนินการ
ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของสื่อภาคประชาชน โดยกิจกรรมการสัมมนาทั้ง 10 ครั้ง
มีวัตถุประสงค์และสิทธิประโยชน์ให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนาดังนี้
1. จัดให้ผู้ประกอบการฯ ร่วมลงชื่อขอแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบกิจการ ฯ พ.ศ.2551
และ พ.ร.บ.กสทช. พ.ศ.2553 เพื่อยกเลิกการประมูลคลื่นความถี่ในส่วนที่ผู้ประกอบการ
ถือครองอยู่แล้วนี้ เสนอต่อ สนช.และ สปช.ในโอกาสที่จะมีการปฏิรูปประเทศไทย
ครั้งใหญ่นี้ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่ออนาคตของผู้ประกอบการฯ ทุกคน
2. เชิญชวนให้เข้าร่วมโครงการ “พสกนิกรหลังไมค์รวมใจสู่ชายแดนใต้”
ร่วมกับคณะทำงานกิจการพลเรือนและงานมวลชน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กองทัพบก
โดยมี พล.ท.ณพล คชแก้ว เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนัก
ในปัญหาชายแดนใต้ รายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงการนี้จะได้จัดสัมมนาเฉพาะเรื่องนี้
กันอีกครั้งหลังประชุมสัญจรนี้จบลง
3.แต่งตั้งเจ้าของสถานีทุกแห่งเป็นอนุกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์โครงการสร้าง
หอเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
จากมูลนิธิ ๕ ธันวามหาราช โดย ดร.จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ
4.แต่งตั้งเจ้าของสถานีหรือผู้บริหารและนักจัดรายการให้เป็นผู้สื่อข่าวของสภาสื่อฯ
พร้อมรับบัตรผู้สื่อข่าวประจำภูมิภาค
5.มอบสิทธิ์เข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนกับ บริษัท เค มอลล์ บิสสิเนส เรดิโอ จำกัด โดย
ใช้เวลาของสถานีวันละ 1 ชั่วโมงแปลงเป็นสินทรัพย์เพื่อใช้เป็นทุนในการเข้าถือหุ้น
6.มอบกรมธรรม์คุ้มครองอุบัติเหตุ 200,000 บาท (เฉพาะเจ้าของสถานี ทุกสถานี
ที่เข้าสัมมนา) จากบริษัทสัญญาประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ
7.มอบสิทธิ์ให้มีรายชื่ออยู่ในระบบข้อมูลของสภาฯ เพื่อรับการจัดสรรโฆษณา
(Sponsor) จากส่วนกลาง
8.แต่งตั้งให้เป็น.......
8.1 เป็นศูนย์รับสมัครนักเรียนผู้ช่วยพยาบาลจากโรงเรียนดิษฐ์ราการบริบาล
8.2 เป็นศูนย์ประสานงานของมหาลัยปทุมธานีเปิดการเรียนการสอน
ป.ตรี-โท- เอก ในภูมิภาค
8.3 เป็นศูนย์ขยายงานให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยบริษัทกู๊ดเน็ต
8.4 เป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “นิวมิคโปร” สารเสริมประสิทธิภาพพืชทุกชนิด
8.5 เป็นผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกหลายรายการที่เข้าร่วมโครงการ
ห้างสรรพสินค้าทางอากาศกับ สค.สช.
9. แต่งตั้งให้เป็นสาขา “ชมรมสัญญาใจแห่งประเทศไทย” ชมรมที่
เปิดโอกาสให้แฟนเพลงเข้าเป็นสมาชิกได้แบบไม่จำกัดจำนวน
ทุกรายการเป็นไปตามข้อตกลงระหว่างสภาเครือข่ายสื่อภาคประชาชนแห่งชาติ
กับทุกองค์กรที่เข้าร่วม โดยมีบันทึกข้อตกลงและทำพิธีลงนามไปแล้วทั้งสิ้น (รายละเอียด
ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้รับทราบในวันที่เข้าร่วมสัมมนาทั้งหมด)
นายกนกศักดิ์กล่าวย้ำว่า นี่คือปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่ผู้ประกอบการวิทยุกระจายเสียง
ภาคประชาชนพลาดไม่ได้ เพราะจะได้ร่วมกันกำหนดทิศทิศทางที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ทั้งในด้านกฎหมาย ด้านการส่วนร่วมกับภาครัฐ และด้านธุรกิจ โดยที่คณะกรรมการบริหาร
คณะกรรมการจัดงาน และนายกสมาคมทั้ง 25 สมาคม ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ประกอบการวิทยุฯ
ด้วยกันทั้งสิ้น จึงมั่นใจได้ว่า....นี่คือตัวจริงเสียงจริง